Computer Network คืออะไร ?
ระบบเครือข่าย (Network) เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้ "ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือระบบเน็ตเวิร์ก คือกลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่ายร่วมกันได้" เครือข่ายนั้นมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกันด้วยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเครื่อง เพื่อใช้งานในบ้านหรือในบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก ส่วน Home Network หรือเครือข่ายภายในบ้าน ซึ่งเป็นระบบ LAN ( Local Area Network) ที่ เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ หมายถึงการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มาเชื่อมต่อกันในบ้าน สิ่งที่เกิดตามมาก็คือประโยชน์ในการใช้คอมพิวเตอร์ด้านต่างๆ เช่น
1. การใช้ทรัพยากรร่วมกัน หมายถึง การใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องพิมพ์ร่วมกัน กล่าวคือ มีเครื่องพิมพ์เพียงเครื่องเดียว ทุกคนในเครือข่ายสามารถใช้เครื่องพิมพ์นี้ได้ ทำให้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์หลายเครื่อง (นอกจากจะเป็นเครื่องพิม์คนละประเภท)
2. การแชร์ไฟล์ เมื่อคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งเป็นระบบเน็ตเวิร์กแล้ว การใช้ไฟล์ข้อมูลร่วมกันหรือการแลกเปลี่ยนไฟล์ทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องอุปกรณ์เก็บข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นในการโอนย้ายข้อมูลตัดปัญหาเรื่องความจุของสื่อบันทึกไปได้เลย ยกเว้นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลหลักอย่างฮาร์ดดิสก์ หากพื้นที่เต็มก็คงต้องหามาเพิ่ม
3. การติดต่อสื่อสาร โดยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเป็นระบบเน็ตเวิร์ก สามารถติดต่อพูดคุยกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น โดยอาศัยโปรแกรมสื่อสารที่มีความสามารถใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกัน หรือการใช้อีเมล์ภายในก่อให้เครือข่าย Home Network หรือ Home Office จะเกิดประโยชน์นี้อีกมากมาย
4. การใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกัน คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อในระบบ เน็ตเวิร์ก
สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกเครื่อง โดยมีโมเด็มตัวเดียว ไม่ว่าจะเป็นแบบอนาล็อกหรือแบบดิจิตอลอย่าง ADSL ยอดฮิตในปัจจุบัน
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สถาบันการศึกษาและบ้านไปแล้วการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้ทั้งไฟล์ เครื่องพิมพ์ ต้องใช้ระบบเครือข่ายเป็นพื้นฐาน ระบบเครือข่ายจะหมายถึง การนำคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันเพื่อจะทำการแชร์ข้อมูล และทรัพยากรร่วมกัน เช่น ไฟล์ข้อมูลและเครื่องพิมพ์ ระบบเครือข่ายสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ด้วยกันคือ
1. LAN (Local Area Network)
ระบบเครื่องข่ายท้องถิ่น เป็นเน็ตเวิร์กในระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตร ไม่ต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ คือจะเป็นระบบเครือข่ายที่อยู่ภายในอาคารเดียวกันหรือต่างอาคาร ในระยะใกล้ๆ
2. MAN (Metropolitan Area Network)
ระบบเครือข่ายเมือง เป็นเน็ตเวิร์กที่จะต้องใช้โครงข่ายการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นการติดต่อกันในเมือง เช่น เครื่องเวิร์กสเตชั่นอยู่ที่สุขุมวิท มีการติดต่อสื่อสารกับเครื่องเวิร์กสเตชั่นที่บางรัก
3. WAN (Wide Area Network)
ระบบเครือข่ายกว้างไกล หรือเรียกได้ว่าเป็น World Wide ของระบบเน็ตเวิร์ก โดยจะเป็นการสื่อสารในระดับประเทศ ข้ามทวีปหรือทั่วโลก จะต้องใช้มีเดีย (Media) ในการสื่อสารขององค์การโทรศัพท์ หรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย (คู่สายโทรศัพท์ dial-up / คู่สายเช่า Leased line / ISDN) (lntegrated Service Digital Network สามารถส่งได้ทั้งข้อมูล เสียง และภาพในเวลาเดียวกัน)
Peer to Peer
ระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก เหมาะสำหรับหน่วยงาน ที่มีคอมพิวเตอร์น้อยกว่า ๑๐ เครื่อง ระบบ Peer to Peer นี้ คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง สามารถเข้าไปใช้ไฟล์ที่เก็บบนเครื่องไหนก็ได้
ข้อดีของการต่อแบบ Peer to Peer
๑. ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการต่อ Network แบบอื่น ๆ
๒. สามารถแชร์ข้อมูล เครื่องพิมพ์ ของแต่ละเครื่องได้
๓. ง่ายในการติดตั้ง และสามารถขยายต่อไปในอนาคตได้ดี
Client / Server
ระบบเครือข่ายแบบ Client / Server จะมีคอมพิวเตอร์หลักเรียกว่า File Server ( ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมในการเก็บข้อมูลทำให้สะดวกในการบริหารข้อมูล ) File Server นี้จะต้องเปิดทิ้งไว้ห้ามปิดในระหว่างการใช้งาน ส่วนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานทั่ว ๆไปเรียกว่า Work Station
ข้อดีของการต่อแบบ Client / Server
๑. สามารถแชร์ข้อมูล เครื่องพิมพ์ ของแต่ละเครื่องได้
๒. มีระบบ Security ที่ดีมาก
๓. รับส่งข่าวสารในลักษณะของ Email ได้ดี
๔. สามารถจัดสรรแบ่งปันการใช้ทรัพยากรได้จากจุดศูนย์กลาง
องค์ประกอบอินเตอร์เน็ต
ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก เพราะสามารถทำงานได้หลากหลายมากขึ้น นับตั้งแต่การจัดทำเอกสาร การจัดทำงบประมาณ จนถึงการดูหนัง ฟังเพลง เมื่อมีเครื่องคอมพิวเตอร์มีจำนวนมากขึ้น ก็ได้มีการนำมาเชื่อมโยงกันเพื่อให้เกิดการสื่อสารอ้างอิงแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ ทำให้เกิดประโยชน์เพิ่มเป็นอย่างมาก เพราะ สามารถรับส่งข้อมูลได้ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะ สามารถกระทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โครงสร้าง และ องค์ประกอบของเครือข่าย Internet
เครือข่าย Internet ย่อย ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทผู้ให้บริการ Internet หรือ ISP( Internet Service Provider ) และ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยแห่งต่าง ๆ รวมทั้งเครือข่ายย่อยอื่น ( เช่น ระบบเครือข่ายหน่วยงาน อนึ่งในภาครัฐ ได้รับการเชื่อมต่อกันโดยเครือข่ายขนส่งข้อมูลที่เรียกว่า Backbone Network หรือ Backbone
เครือข่าย Backbone อาจดำเนินการโดยบริษัท หรือ กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP – operated backbone) หรือ จัดตั้งขึ้น และ ดำเนินการโดยองค์กรร่วม (Consortium) เช่น ไทยสาร (Thaisarn) เครือข่าย Backbone ส่วนใหญ่จะใช้สายส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูง โดยมีองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้
๑. บริษัทผู้ให้บริการ Internet (Internet Service Providers) เป็นบริษัทซึ่งเปิดให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) สำหรับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ สถาบันการศึกษา บุคคลทั่วไป ฯลฯ โดยอาจมีขอบเขตให้บริการลูกค้าในเฉพาะเขตพื้นที่จำกัด เช่น ในระดับจังหวัด หรือ ภูมิภาค หรือ อาจมีขอบเขตให้บริการครอบคลุมในระดับประเทศ หรือ ระดับนานาชาติก็ได้ นอกจากให้บริการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Internet แล้ว บริษัทผู้ให้บริการ Internet มักมีบริการ Internet อื่น ๆ เสริม เช่น ให้เช่า E-mail Box เพื่อใช้เก็บจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail)
๒. เครือข่าย Backbone ทำหน้าที่เชื่อมต่อเครือข่ายย่อย ๆ เข้าด้วยกัน เครือข่าย Backbone นี้ดำเนินการโดยบริษัท หรือ กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการ Internet หรือ ISP – operated backbone หรือ โดยองค์กรร่วม(Consortium) หรือ บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ นอกจากนี้ เครือข่าย Backbone ยังมีทั้งที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการเชื่อมต่อภายในประเทศ , เพื่อการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ และ เพื่อให้บริการในระดับนานาชาติ
อธิบายระบบ Computer Network
ศึกษาเกี่ยวกับระบบ Computer Network
( by TheEcoNetwork & Room504)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น